เกี่ยวกับโรงเรียน
ประวัติโรงเรียนวัดฮ่องกอก
โรงเรียนวัดฮ่องกอก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ โดยแยกมาจากโรงเรียนบ้านสันกับตอง และอาศัยศาลาวัดเทพาราม(ฮ่องกอก) เป็นห้องเรียนชั่วคราว มีนายสุชิน คงแสง เป็นครูใหญ่คนแรก
ต่อมาพระอธิการบุญปั๋น คันธวโร เจ้าอาวาสวัดเทพาราม(ฮ่องกอก) ร่วมกับราษฎรในหมู่บ้าน ทำการก่อสร้างอาคารเรียนขึ้นหนึ่งหลัง ขนาด ๖×๘ เมตร ๓ ห้องเรียน คิดเป็นเงิน ๘๑,๖๐๔.๐๕ บาท สร้างในที่ดินของพ่อหนานจันทร์และแม่คำปัน เทพมณี ซึ่งบริจาคให้แก่โรงเรียน ได้ทำพิธีเปิดป้าย อาคารเรียนเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๔ โดยให้ชื่อว่า “โรงเรียนวัดฮ่องกอก (คันธวรราษฎร์นุกุล)”
ใน ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ป.๑ ก. ขนาด ๔ ห้องเรียน มูลค่า ๑๔๐,๐๐๐ บาท จัดสร้างแทนอาคารเรียนหลังเดิม
ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ นายสุชิน คงแสง ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านอุโมงค์ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน นายสนั่น พรหมเทศ ได้มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่แทน
ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ป.๑ ก. ขนาด ๒ ห้องเรียน เป็นเงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาท และได้รับงบประมาณก่องสร้างส้วม ขนาด ๕ ที่นั่งอีก ๑ หลัง
ในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๒๔ นายสนั่น พรหมเทศ ครูใหญ่ ถูกยืมตัวไปช่วยราชการที่ สปจ.ลำพูน ทางสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเมืองลำพูน จึงได้แต่งตั้งให้ นายสถาพร มูลรินต๊ะ ครูฝ่ายปฏิบัติการสอนในโรงเรียน ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕โรงเรียนได้รับจัดสรรอัตรานักการภารโรง จำนวน ๑ อัตรา คือนายนิชย์ หมูกลาง บรรจุเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๕
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ ทางโรงเรียนได้รับโอนบุคลากรครูและนักเรียน พร้อมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ของโรงเรียนบ้านสันกับตอง ที่ถูกยุบโรงเรียน โดยสาเหตุมีนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด รวมระยะเวลาที่โรงเรียนวัดฮ่องกอก แยกมาจากโรงเรียนเดิมคือ โรงเรียนบ้านสันกับตอง เป็นระยะเวลา ๓๒ ปี
ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้ก่อสร้างประปาโรงเรียน จากการทอดผ้าป่าสามัคคี โดยการนำของพ่อกำนัน คำตั๋น วิบูลย์มา กำนันตำบลหนองช้างคืนในขณะนั้นและเงินบริจาคของประชาชน ผู้ปกครองนักเรียน เป็นเงิน ๓๒,๐๒๕ บาท โดยมีนายฉาย ชัยวิศิษฐ์ หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอเมืองลำพูน เป็นประธาน ในพิธีรับมอบไว้เป็นสมบัติของทางราชการ นอกจากนี้ยังได้รับงบประมาณก่อสร้างถังเก็บน้ำฝน แบบ ฝ.๓๐ พิเศษ เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท จากงบประมาณตามโครงการพัฒนาชนบทและชุมชน ตามข้อเสนอของ ส.ส.ลำพูน คือ นายสมาน ชมพูเทพ และงบก่อสร้างเสาธงของโรงเรียน เป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดลำพูน ได้แต่งตั้ง นายอินทรน้อย มะลิชัยวงศ์ อาจารย์ ๑ ระดับ ๔ โรงเรียนวัดบ้านม้า สปอ.เมืองลำพูน ซึ่งผ่านการสอบคัดเลือกการเข้าสุ่ตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียน มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนวัดอ่องกอก เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๒๙ และทางราชการได้มีคำสั่งยืมตัวนายสถาพร มูลรินต๊ะ ไปช่วยราชการที่ สปอ.เมืองลำพูน ในปีนี้ทางโรงเรียนได้รับงบประมาณตามโครงการพัฒนาชนบทและชุมชนอีก ๘,๐๐๐ บาท สำหรับก่อสร้างที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ประจำสถานสึกษา โดยมีประชาชนและผู้ปกครองนักเรียนร่วมบริจาคอีก ๗,๐๐๐ บาท รวม ค่าก่อสร้าง ๑๕,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับบริจาคเงินจากกลุ่มแม่บ้าน กรรมการศึกษาและศิษย์เก่าสำหรับก่อสร้างอาคารเด็กเล็ก ขนาด ๖×๘ เมตร จำนวน ๑ หลัง เป็นเงิน ๒๘,๐๕๐ บาท ในปีเดียวกัน ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ แบบ สปช. ๒๐๒/๒๖ จำนวน ๑ หลัง
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากชุมชน ช่วยกันก่อสร้างโรงอาหารเป็นเงิน ๒๓,๐๐๐ บาท ได้ทำพิธีเปิดป้ายอาคารพร้อมกันทั้ง ๓ หลัง คือ อาคารเด็กเล็ก อาคารเอนกประสงค์และโรงอาหาร โดยมีนายอนุวัติ สินธุบุญ หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอเมืองลำพูน เป็นประธานในพิธี
นอกจากนั้นยังได้ต่อเติมอาคารเรียน เพื่อเป็นที่เรียนของชั้นเด็กเล็กตามโครงการของ สปช. ค่าก่อสร้าง ๕,๐๐๐ บาท โดยใช้ทุนทรัพย์จากการทำบุญและการบริจาคของคณะครู
ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ สปจ.ลำพูน ได้แต่งตั้งนายจรูญ สินธุบุญ ครูใหญ่โรงเรียนบ้านแม่หาด สปอ.เมืองลำพูน มาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนวัดฮ่องกอก และนายอินทรน้อย มะลิชัยวงศ์ ไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่ โรงเรียนบ้านป่าเส้า สปอ.เมืองลำพูน
ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ประชาชนผู้ปกครองนักเรียนบ้านสันกับตองและบ้านฮ่องกอก คณะครูและ นักการภารโรง ได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ในการก่อสร้างรั้วโรงเรียนด้านทิศเหนือ คิดเป็นเงิน ๒๑,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับงบประมาณค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง สร้างอาคารเรียนแบบ สปช.๑๐๒/๒๖ จำนวน ๑ หลัง ขนาด ๓ ห้องเรียน
ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้สร้างถนนคอนกรีตในโรงเรียน กว้าง ๓.๕๐ เมตร ยาว ๑๒๐ เมตร และในปีนี้ ได้เริ่มเปิดทำการสอนชั้นอนุบาลปีที่ ๑
ปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้ก่อสร้างโรงอาหารขึ้นอีก ๓ หลัง โดยใช้วัสดุจากการรื้อถอนอาคารเรียน แบบ ป.๑ ก. จำนวน ๒ หลัง งบประมาณในการก่อสร้าง ๑๙๖,๐๐๐ บาท โดยไม่ใช้งบประมาณจาก ทางราชการ
ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ คณะศิษย์เก่า ประชาชน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะครู ภารโรง ได้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบกับเงินทำบุญทอดผ้าป่า โดยการนำของ พ่อครูบุญศรี และคุณแม่สุภาพ ปุณโณทก เพื่อสร้างอาคารห้องสมุด คสล. ๒ ชั้น ขนาด ๙×๙ เมตร จำนวน ๑ หลัง ค่าก่อสร้าง ๓๕๐,๐๐๐ บาท โดยไม่ใช้งบประมาณจากทางราชการ และตั้งชื่ออาคารหลังนี้ว่า “อาคารปุณโณทก คุรุราษฎร์อุปถัมภ์” ต่อมาภายหลังทางโรงเรียนได้ย้ายห้องสมุดไปไว้ที่อาคารเรียน อาคารหลังนี้จึงถูกใช้เป็นสำนักงานสถานศึกษาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ปีงบประมาณ ๒๕๔๐ ได้รับงบประมาณค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง สร้างอาคารเรียนแบบ สปช.๑๐๕/๒๙ ขนาด ๒ ชั้นใต้ถุนโล่ง ๔ ห้องเรียน จำนวน ๑ หลัง งบประมาณ ๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท ในปีนี้ โรงเรียน ได้เข้าโครงการปฏิรูปการศึกษา
ปีงบประมาณ ๒๕๔๒ ได้รับงบประมาณต่อเติมอาคารเรียนชั้นล่างของอาคาร สปช.๑๐๕/๒๙ จำนวน ๒ ห้องเรียน เป็นเงิน ๑๘๑,๕๐๐ บาท ทางคณะครูกรรมการโรงเรียน ประชาชนและผู้ปกครองนักเรียนได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ในการก่อสร้างห้องสมุดชั้นล่างของอาคาร เป็นเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท
ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ นายจรูญ สินธุบุญ ได้ลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด นายบุญฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งแทน ปีงบประมาณ ๒๕๔๖ ได้รับงบประมาณก่อสร้างส้วมขนาด ๔ ที่นั่ง จำนวน ๑ หลัง เป็นเงิน ๑๖๓,๐๐๐ บาท
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ นายบุญฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน วัดชัยสถาน และนายภาณุวัฒน์ ดวงแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านศรีย้อย ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งแทน
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะครู กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียนได้ร่วมกันก่อสร้างรั้วด้านหน้าโรงเรียน จำนวน ๑๘ ช่อง ค่าก่อสร้าง ๓๙,๖๐๐ บาท โดยไม่ใช้งบประมาณจากทางราชการ นอกจากนี้ยังได้รับงบประมาณอุดหนุนจากเทศบาลตำบลอุโมงค์ ในการสร้างเรือนเพาะชำโครงเหล็ก ขนาด ๔×๘ เมตร สูง ๔ เมตร ค่าก่อสร้าง ๒๕,๐๐๐ บาท
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากเทศบาลตำบลอุโมงค์สร้างโครงเหล็กหลังคาสนามเด็กเล่น ขนาด ๘.๕๐×๑๑.๕๐ เมตร สูง ๓.๑๕ เมตร ค่าก่อสร้าง ๒๕,๐๐๐ บาท
ปีงบประมาณ ๒๕๕๐ ได้รับงบประมาณอุดหนุนจากเทศบาลตำบลอุโมงค์ ก่อสร้าง ลานเอนกประสงค์ ขนาดกว้าง ๑๐.๒๕ เมตร ยาว ๑๓ เมตร เป็นเงิน ๓๒,๐๐๐ บาท
ปีงบประมาณ ๒๕๕๑ ได้รับงบประมาณอุดหนุนจากเทศบาลตำบลอุโมงค์ สำหรับปรับปรุง ภูมิทัศน์ และสิ่งแวดล้อม ๕๓,๐๐๐ บาท โครงการจัดการขยะ ๒,๐๐๐ บาท
ปีงบประมาณ ๒๕๕๒ นายภาณุวัฒน์ ดวงแก้ว ได้ลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุ ก่อนกำหนด เมื่อเดือน กันยายน ๒๕๕๒ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต ๑ ได้แต่งตั้ง นายสถาพร มูลรินต๊ะ ครูปฏิบัติการสอนในโรงเรียนนี้ เป็นผู้รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนและทางโรงเรียนได้รับการแต่งตั้งนักการภารโรงชั่วคราวมา ๑ ตำแหน่ง คือ นายจรูญ บุญตัน
ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต ๑ มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นางนัลภา ผดุงกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสบเมย อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน วัดฮ่องกอก วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๒ และย้ายมา วันอังคารที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๓
ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีครูจำนวน ๕ คน นักการภารโรง ๑ คน จำนวนนักเรียน ๕๘ คน และในปีนี้โรงเรียนได้ดำเนินการก่อสร้างรั้วโรงเรียนด้านทิศตะวันตก และทิศใต้ จำนวน ๗๓ ช่อง ความยาว ๑๔๖ เมตร สูง ๑.๖๐ เมตร เริ่มก่อสร้างเดือนเมษายน แล้วเสร็จ ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๓ โดยได้รับงบประมาณจากงบแปรญัตติ ปี ๒๕๕๓ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) และงบจากการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชนในเขตบริการของโรงเรียนร่วมกันจัดทำบุญทอดผ้าป่าในวันเสาร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ ได้เงินจำนวน ๑๔๐,๗๘๓.๐๐ บาท (หนึ่งแสนสี่หมื่นเจ็ดร้อยแปดสิบสามบาทถ้วน)
ปี พ.ศ.๒๕๕๔ ได้รับการสนับสนุนจากการระดมทรัพย์ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีจากชุมชน จำนวน ๑๒๐,๗๓๙.๐๐ บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นเจ็ดร้อยสามสิบเก้าบาทถ้วน) นำไปจ้างครูสอนวิทยาศาสตร์ ครูสอนภาษาอังกฤษ จำนวน ๒ คน เป็นเงิน ๓๐๐๐๐ บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) นำไป ปูกระเบื้องโรงอาหาร ๑๒,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสองพันบาทถ้วน) ปรับปรุงประตูอาคารเอนกประสงค์ จำนวน ๖,๐๐๐ บาท (หกพันบาทถ้วน) ได้รับงบสนับสนุนจากเทศบาลตำบลอุโมงค์จำนวน ๒ โครงการ คือ โครงการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม และโครงการวิถีพุทธ เป็นเงิน ๑๓,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสามพันบาทถ้วน)
ปี พ.ศ.๒๕๕๕ ได้รับการสนับสนุนจากการระดมทรัพย์ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีจากชุมชน จำนวน ๑๖๑,๔๙๖.๒๕ บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยเก้าสิบหกบาทยี่สิบห้าสตางค์) นำไปเป็นเงินค่าจ้างครูสอน จำนวน ๔ คน เนื่องจากครูเออรี่ ๒ คน คือ ครูเยาวลักษณ์ สุทรารมณ์ลักษณ์ และครูณัฎฐวี โต้สี เหลือครูเพียง ๒ ท่าน จึงมีความจำเป็นต้องจ้างครูมาสอนเพิ่ม ได้รับงบสนับสนุน จากเทศบาลตำบลอุโมงค์จำนวน ๒ โครงการ โครงการโรงเรียนสีเขียว และโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เป็นเงิน ๑๔,๐๐๐ บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถ้วน) รับเงินบริจาคปูกระเบื้องห้องเรียน จำนวน ๒ ห้องเรียน
